new update
recent

ช่วงเวลาที่ดีที่สุกในการออกกำลังกาย

The Best Time of Day to Exercise

ผลการวิจัย เกี่ยวกับระบบการหายใจ จังหวะการทำงานของร่างกาย อุณหภูมิของร่างกาย และระดับฮอร์โมน บอกไว้อย่างนึงว่า ให้ออกกำลังกายช่วง 6 โมงเย็น (18 นาฬิกา) ในขณะที่การสำรวจเก็บข้อมูลสำหรับ พฤติกรรมการออกกำลังกาย บอกอีกอย่างนึงว่า การออกกำลังกายในตอนเช้า จะช่วยในเรื่องอื่นๆได้ดีกว่า นอกจากไอ้ผลสองผลนี้แล้ว ก็ยังมีผลการนั่นการนี่ อีกนับสิบเรื่อง บอกว่าออกกำลังกายช่วงนี้ดี ช่วงนั้นไม่ดีอย่างไร ชักจะสับสนแล้วสิ ตกลงแล้วเราควรออกกำลงกายตอนไหนดี เอาละครับ มาดูกันดีกว่า ว่าแต่ละช่วงของวันนั้น มันดีหรือไม่ดีอย่างไร

ช่วงเช้า


ข้อดี:
  • การออกกำลังกายช่วงเช้า ทำให้คุณสามารถกำหนดเวลา ที่จะออกกำลังกายได้ง่ายกว่าช่วงอื่น จะมีโอกาสที่ถูกขัดจังหวะจาก สิ่งอื่นๆได้น้อย เทียบกับช่วงอื่น เช่น ถ้าคุณจะออกกำลังกายตอนบ่าย บางทีอาจจะมีเรื่องงาน หรือเรื่องอะไรซักอย่างในชีวิตประจำวัน ที่จำเป็นต้องไปทำตอนนั้นเข้ามาแทรกได้ง่ายกว่า หรือถ้าจะออกช่วงค่ำ โอกาสที่ตอนเย็นจะโดนเพื่อนร่วมงาน ชวนแกมบังคับ ให้ออกไปสังสรรค์ แล้วพลาดโอกาส ในการออกกำลังกายในวันนั้นๆไป ก็มีได้มาก
  • การจัดสรรค์เวลาเพื่อออกกำลังกายในตอนเช้า ก็ทำได้ง่าย เพียงแค่ปรับเวลาตื่นนอนให้เร็วขึ้นเท่านั้นเอง
  • การ ออกกำลังกายตอนเช้า จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการเผาผลาญพลังงาน ในระหว่างวัน อันนี้มีผลการวิจัยออกมาแล้ว ว่าจะช่วยให้เผาผลาญพลังงานได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
  • ทำให้รู้สึก กระปรี้กระเปร่า หลังจากออกกำลังกายอย่างถูกต้องในตอนเช้าแล้ว ร่างกายจะตื่นตัวและกระปรี้กระเปร่าไปอีกหลายชั่วโมง อันเป็นผลจากการที่ร่างกายถูกกระตุ้น และการที่ระดับฮอร์โมนหลังการออกกำลังกาย มีการเปลี่ยนแปลง ต้องเน้นตรงการออกกำลังกายอย่างถูกต้องและเหมาะสมนิดนึงนะครับ เพราะบางคนออกกำลังกายมากไป หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ในช่วงเช้า อาจจะส่งผลกลับกันคือทำให้เพลียได้
  • ในช่วงเช้ามลพิษในอากาศนั้นยัง มีน้อยอยู่ เทียบกับช่วงอื่นๆในระหว่างวัน เมื่อร่างกายออกกำลังกาย ต้องการอากาศอย่างมาก ทั้งในระหว่างการออกกำลังกาย และหลังกายออกกำลังกาย การที่สูบอากาศที่ดีกว่าเข้าไป ย่อมดีกว่าอากาศที่ปะปนมลพิษที่เพิ่มขึ้นแล้ว ในระหว่างวันหรือช่วงเย็น
ข้อเสีย:
  • ระดับอุณหภูมิในร่างกาย จะมีช่วงที่ต่ำที่สุดในช่วง 1-3 ชม.ก่อนที่เราจะตื่น อันมีผลทำให้ในตอนเช้าระดับพลังงานในร่างกาย และกระแสเลือดจะมีค่าต่ำ การไหลเวียนของกระแสเลือด ก็น้อยกว่าในช่วงอื่นด้วย
  • ความเย็นในช่วงเช้า อาจจะมีผลต่อการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ ระหว่างออกกำลังกายได้ ในจุดนี้ต้องอบอุ่นร่างกายให้พร้อมก่อน ก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกายหนักในเวลาต่อมา แล้วก็ควรจะมีการยืดเส้น ทำการ stretching ก่อนออกกำลังกาย จะช่วยได้มาก
  • อันนี้เป็นปัญหาใหญ่ทาง จิตใจเลยทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ชอบตื่นเช้า ถ้าหากต้องทรมานมาตื่นเช้า เพื่อออกกำลังกายแล้ว แทนที่จะรู้สึกดี อาจจะยิ่งทำให้แย่ หรือยิ่งเบื่อการออกกำลังกาย
  • ระดับอุณหภูมิในร่างกาย และระดับฮอร์โมนในร่างกาย ช่วงบ่ายค่อนเย็น จะมีค่าสูงกว่า ซึ่งจะมีผลต่อการเผาผลาญพลังงาน ด้วยระดับการออกกำลังกายที่เท่ากัน แต่เล่นในช่วงบ่ายหรือเย็น จะเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า
เที่ยงและช่วงพัก

ข้อดี:
  • ระดับอุณหภูมิของร่างกาย และระดับฮอร์โมน สูงกว่าในช่วงเช้า
  • จะ ช่วยในการควบคุม ความรู้สึกต้องการอาหารในมื้อเที่ยงได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยลดความต้องการ ในการกินอาหารจุบจิบช่วงพักได้ (อาจจะใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน)
  • เพิ่มระดับการไหลเวียนของกระแสเลือดใน ร่างกาย ทำให้กระปรี้กระเปร่าในช่วงบ่าย (เช่นกับตอนเช้า เงื่อนไขคือต้องเป็นการออกกำลังกาย ที่ถูกต้องและพอดี ไม่เช่นนั้นอาจจะให้ผลตรงกันข้าม)
  • ผ่อนคลายความเครียด จากการทำงาน การเรียน หรือการทำงานบ้าน
ข้อเสีย:
  • ด้วยเวลาที่จำกัดในช่วงเที่ยง ก็จะไม่สามารถออกกำลังกายได้เต็มที่นัก
  • ภาระ กิจและความรับผิดชอบ หน้าที่อื่นๆ ในการทำงาน อาจจะทำให้สมาธิไม่อยู่กับการออกกำลังกายได้เต็มที่ จนอาจจะถึงกระทั่ง บางทีต้องยกเลิกคิวออกกำลังกาย ที่ตั้งใจไว้ เพราะติดงานเข้ามาแทรก
  • มี ผลวิจัยค้นพบว่าในช่วงเที่ยงนั้น ระบบหายใจจะทำงานได้ไม่ดีเท่าช่วงอื่น สำหรับการออกกำลังกายด้วยการเดิน นั้นอาจจะไม่รู้สึกแตกต่างอะไร แต่สำหรับการออกกำลังกายหนักๆ หรือผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ จะมีผลต่างกันราว 15-20% เลยทีเดียว
บ่าย
ข้อดี:
  • มีผลการวิจัย ทดสอบออกมาว่า ช่วงเวลาบ่าย (สามโมงถึงทุ่ม) เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด สำหรับการออกกำลังกาย ทั้งแบบเพิ่มความอดทน (endurance) และการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ)
  • คนส่วน ใหญ่จะมีอุณหภูมิในร่างกาย และระดับฮอร์โมนสูงสุดที่เวลาประมาณ หกโมงเย็น การออกกำลังกายในช่วง 3 ชม. ก่อนหรือหน้าช่วงนั้น เป็นช่วงที่ดีที่สุด
  • มีผลการวิจัยระบุว่าระบบการหายใจจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วง สี่ถึงห้าโมงเย็น
  • กล้ามเนื้อในช่วงนี้ของวัน จะอบอุ่นและยืดหยุ่น พร้อมกับการออกกำลังกายได้มากที่สุด
  • จะมีส่วนช่วยในการควบคุมความรู้สึก อยากอาหารในมื้อเย็นได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด จากการทำงาน การเรียน หรือการทำงานบ้าน
ข้อเสีย:
  • บ่อยครั้งที่เรื่องหน้าที่การงาน มักจะเข้ามาแทรก ทำให้หาเวลาในช่วงเย็น สำหรับออกกำลังกายได้ยาก และบ่อยครั้งที่แม้คุณจะตั้งใจไว้แล้ว ว่าในช่วงเย็นจะไปออกกำลังกาย แต่มีงานด่วน หรือมีนัดสำคัญ หรือเพื่อนๆ มาชวนไปสังสรรค์ในช่วงค่ำ จนทำให้ต้องไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไปในที่สุด
ช่วงเย็นถึงค่ำ

ข้อดี:
  • คนส่วนใหญ่จะมีอุณหภูมิในร่างกาย และระดับฮอร์โมนสูงสุดที่เวลาประมาณ หกโมงเย็น การออกกำลังกายในช่วง 3 ชม. ก่อนหรือหน้าช่วงนั้น เป็นช่วงที่ดีที่สุด
  • กล้ามเนื้อจะอบอุ่นและยืดหยุ่น พร้อมกับการออกกำลังกาย
  • จะมีส่วนช่วยในการควบคุมความรู้สึก อยากอาหารในมื้อเย็นได้ดีขึ้น
  • ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายเครียด จากการทำงาน การเรียน หรือการทำงานบ้าน
ข้อเสีย:
  • ปัญหาแรกคือจะคล้ายกับช่วงบ่าย คือเรื่องเวลาอาจจะถูกรบกวน โดยงานที่ต้องทำยันเย็นยันมืด หรือนัดพิเศษที่คุณเลี่ยงมันไม่ได้ นั่นอาจจะทำให้เวลาที่สุดแสนจะน่าออกกำลังกาย สำหรับคุณต้องมลายหายไป
  • ควร ต้องพักประมาณหนึ่งถึงสามชั่วโมง หลังจากการออกกำลังกาย ก่อนที่จะเข้านอน เพราะหากออกกำลังกายแล้วจะนอนทันที ร่างกายอาจจะยังรู้สึกตื่นตัว และส่งผลให้นอนไม่ค่อยหลับ หรือหลับไม่สนิท ซึ่งก็จะมีผลต่อการหลั่งฮอร์โมน เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของร่างกาย
  • หากเป็นการออกกำลังกายประเภทนอกสถานที่ จะทำได้ลำบาก ... เพราะมันมืดแล้วนั่นเอง
แล้วเวลาไหนจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด...
อันดับแรกๆ เลย ก็ต้องเป็นเวลาที่คุณสะดวกที่สุด จะเห็นว่าทุกๆช่วงเวลาในแต่ละวัน จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป นี่เป็นข้อดีข้อเสียทั่วๆไปเท่านั้น คุณๆแต่ละคนเอง ก็อาจจะมีข้อดีข้อเสียของตัวเอง ต่อช่วงเวลาต่างๆ ที่แตกต่างกันไปอีก ตามหน้าที่การงาน อาชีพ และชีวิตส่วนตัว ดังนั้นอันดับต้นๆเลย เวลาที่ดีที่สุด ก็คือเวลาที่คุณสะดวก และพร้อมที่จะออกกำลังกาย ต่อให้เวลาไหนดีเลิศยังไง แต่ถ้าหากหาเวลาไปเล่นช่วงนั้นไม่ได้ แล้วทำให้เราเสียโอกาสที่จะออกกำลังกายในวันนั้นไป มันจะมีประโยชน์อะไร เวลาที่ดีที่สุด คือเวลาที่เราได้ออกกำลังกาย ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบกาณ์ทางการออกกำลังกาย หลายต่อหลายคนล้วนยืนยันเหมือนกันสิ่งนึง ช่วงเวลาไม่มีผลสำคัญอะไร เท่ากับว่าคุณจะหาเวลาออกกำลังกายได้หรือไม่ นั่นต่างหากที่สำคัญที่สุด จะเวลาไหนก็เถอะครับ ขอให้ได้ออกกำลังกาย

ที่มา: theryo
Fitness and Muscle Online

Fitness and Muscle Online

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Fitness and Muscle Online. ขับเคลื่อนโดย Blogger.